วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2558

งาขี้ม้อน




















สรรพคุณของงาขี้ม้อน

1       เมล็ดหรือน้ำมันสกัดจากเมล็ดใช้กินเป็นยาชูกำลัง โดยใช้เมล็ดงาขี้ม้อน 1 ช้อนชา นำมาชงกับ                 น้ำดื่มเช้าเย็น (น้ำมันจากเมล็ด[2], เมล็ด[6])
2       เมล็ดมีสรรพคุณช่วยไขมันในเลือด โดยใช้เมล็ดงาขี้ม้อน 1 ช้อนชา นำมาชงกับน้ำดื่มเช้าเย็น                     (เมล็ด)[6]
3        ช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น ด้วยการใช้เมล็ดงาขี้ม้อน 1 ช้อนชา นำมาชงกับน้ำดื่มเช้าเย็น (น้ำมันจาก           เมล็ด[2], เมล็ด[6])
4       ใบและยอดอ่อนมีสรรพคุณช่วยแก้อาการไอ แก้หวัด (ใบ,ยอดอ่อน)[2]
5        ช่วยแก้อาการท้องผูก ด้วยการใช้เมล็ดงาขี้ม้อน 1 ช้อนชา นำมาชงกับน้ำดื่มเช้าเย็น (น้ำมันจาก                เมล็ด[2], เมล็ด[6])
6        ช่วยในการย่อยอาหาร (ใบ,ยอดอ่อน)[2]
7        น้ำมันจากเมล็ดนำมาทอดผสมกับเหง้าไพล ใช้เป็นยาแก้อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย (น้ำมันจาก            เมล็ด)[1]
8        น้ำมันหอมระเหยที่ได้จากใบสด มีสรรพคุณช่วยแก้อาการเคล็ดขัดยอกได้ (น้ำมันหอมระเหยจาก              ใบ)[3]
9         เมล็ดนำมาบีบเอาน้ำมันใช้เป็นยาทานวด แก้อาการปวดขัดข้อกระดูก (เมล็ด)[1]
10      เมล็ดนำมาตำใช้เป็นยาประคบแก้อาการข้อพลิก (เมล็ด)[4]

วันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

น้ำมันงา






















สรรพคุณ

งามีไขมันจำเป็นที่ร่างกายสังเคราะห์เองไม่ได้ คือกรดไลโนเลอิก ร่างกายจะนำกรดไขมันดังกล่าวไปสร้างฮอโมนพรอสต้าแกลนดินฮีกัน ซึ่งทำหน้าที่ที่ทรงคุณค่าต่อร่างกายมากมายหลายด้านด้วยกัน อาทิ
1.  ช่วยขยายหลอดเลือด
2.  ช่วยลดความดันโลหิต
3.  ป้องกันเกล็ดเลือด (Plate Ket) เกาะกันเป็นลิ่ม ถ้าเกาะกันมากอาจอุดตันหลอดเลือดเล็กๆได้
-  ถ้าอุดตันหลอดเลือดหัวใจ ก็จะเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
-  ถ้าลิ่มเลือดไปอุดตันหลอดเลือดสมอง ก็จะป่วยเป็นอัมพาต อัมพฤกษ์ได้
-  ถ้าลิ่มเลือดอุดตันจอตา อาจทำให้ตาบอดได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเบาหวานต้องระวัง

4.  ยับยั้งไม่ให้ร่างกายสร้างคอเลสเตอรอลมากเกินไป
5.  งามีแคลเซี่ยมสูงทำให้กระดูกแข็งแรงเพิ่มความหนาให้มวลกระดูก
-  งามีแคลเซี่ยมสูงมากกว่าพืชทั่วไปถึง 40 เท่า ทั้งยังมีฟอสฟอรัสมากถึง 20 เท่า สาร 2 ตัวนี้เป็นธาตุสำคัญในการเสริมสร้างกระดูกและฟัน จึงควรให้เด็กกินงาจะได้เจริญเติบโตสูงใหญ่ สตรีวัยหมดประจำเดือนก็ควรกินงามากๆ เพราะวัยนี้จะเกิดภาวะพร่องฮอร์โมนเอสโตเจน ทำให้มีการดึงแคลเซี่ยมาจากกระดูกและฟัน จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคกระดูกพรุน กระดูกเสี่อม
นอกจากนี้ในงายังมีวิตามินอี ซึ่งเป็นสารต้านมะเร็ง และเป็นยาอายุวัฒนะทำให้ร่างกายสดชื่น ดูหนุ่ม - สาวและแก่ช้าลง
    ที่สำคัญ งามีเลซิติน ซึ่งเป็นส่วนประกอบไขมันที่สำคัญมากในเซลล์ประสาท ต่อมไร้ท่อ สมอง หัวใจ ไต ควรรับประทานวันละ 1-2 ช้อนชา แล้วตามด้วยน้ำอุ่น จะทำให้จิตแจ่มใส อารมณ์ดี

เราจะเห็นว่างานั้นมีประโยชน์มากมาย แม้แต่อาหารหลักของชาวมังสวิรัติยังขาดงาไม่ได้ เพราะโปรตีนของคนเราประกอบด้วยกรดอมิโนประมาณ 22 ชนิด แต่กรดอมิโนที่ร่างกายเราสร้างเองไม่ได้มีอยู่ 9 ชนิดด้วยกัน โปรตีนเหล่านี้มีอยู่ในถั่วเกือบครบถ้วน ยกเว้นกรดอมิโนที่ชื่อ เมทไธโอนีน ผMethionine) ซึ่งมีมากในเมล็ดงา

คนโบราณนิยมใช้น้ำมันงาในการรักษาตัวเองมานานหลายพันปีมาแล้ว ทั้งในประเทศอินเดียและจีน สรรพคุณต่างๆที่รวบรวมได้มีดังนี้

มีสรรพคุณต้านแบคทีเรีย รา และไวรัส ลดการอักเสบ ลดการเกิดการอุดตันของหลอดเลือด ใช้กับโรคเรื้อรัง เช่น ตับอักเสบ เบาหวาน และปวดศีรษะเรื้อรัง สกัดการเติบโตของเซลล์มะเร็งผิวหนัง และเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ ต้านอนุมูลอิสระ ใช้กลั้วคอและบ้วนปากจะลดเชื้อที่ทำให้เกิดเหงือกอักเสบ เชื้อก่อโรคเจ็บคอ และเชื้อหวัด ใช้หยอดจมูก (1-2 หยด) เมื่อเป็นไซนัสพบว่าได้ผลดี ใช้ทาผิวผู้เป็นโรคสะเก็ดเงินหรือเรื้อนกวาง (Psoriasis) และผู้มีผิวแห้ง ใช้ทาผิวและเคลือบเส้นผมเพื่อป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสงแดดและลม ช่วยจับสารพิษในกระแสเลือด ช่วยรักษาเหา ลดอาการปวดตามข้อได้ ชาวธิเบตใช้หยดจมูกข้างละ 1 หยดเพื่อช่วยให้นอนหลับ และลดความกระวนกระวาย ช่วยระบายท้อง

เคล็ดลับก้นครัว

ใช้ประกอบอาหารได้ทุกประเภทเนื่องจากอุณหภูมิในการประกอบอาหารประมาณ 100 องศาเซ็นเซียนส ไม่ได้ทำลายคุณค่าทางโภชนาการของน้ำมัน (หากใช้แล้วไม่ควรนำกลับมาใช้ซ้ำ) ดังนั้น ทั้ง ผัด ทอด หมักหมู หมักเนื้อ ทำน้ำจิ้มสุกี้
ดับกลิ่นคาวปลาและอาหารทะเล
สำหรับทอดที่ใช้เวลาไม่นานมาก หรือเจียวไข่ ตั้งน้ำมันงาให้ร้อนรอจนฟองหมด แล้วทอดจะทำให้อาหารที่ทอดกรอบนอกนุ่มใน ไม่อมน้ำมัน อาหารมีรสชาดอร่อยขึ้น โดยไม่มีกลิ่นน้ำมันตกค้างในรสชาดอาหารเลย
ผัดผักกับน้ำ เหยาะเกลือป่นเล็กน้อย ใส่น้ำมันงา 1 ช้อนชา ผักจะหอมและกรอบอร่อย
ผสมในน้ำจิ้มสุกี้ น้ำสลัดเพื่อสุขภาพ
ใส่ในหม้อหุงข้าว 1 ช้อนโต๊ะ ก่อนกดปุ่ม จะช่วยให้ข้าวหอมนุ่ม อร่อย ไม่บูด ไม่เสีย ง่าย
เคล็ดลับงากับความงาม
1.  ใช้หมักผม จะทำให้เส้นผมดกดำ ไม่หลุดร่างง่าย ผมไม่แห้งแตกปลาย ใช้น้ำมันงาหมักผมไว้ประมาณ 30 นาทีก่อนสระออก

2.  ใช้บำรุงผิวหน้า ผิวกาย นวดตัว คลายกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนของระบบน้ำเหลือง ช่วยให้หลอดเลือดขยาย

3. อมฆ่าเชื้อ และลดกลิ่นปาก ลดคราบบุรี ชากาแฟ อมแล้วกลั้อคอประมาณวันละ 5 นาที หลังแปรงฟัน แล้วบ้วนทิ้ง

วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556

บวบกระดูก

ขนาด 3.5 x 5.5 นิ้ว


















ใช้ได้ 2 ด้าน
โดนน้ำก็นิ่ม แต่ไม่นิ่มเหมือนฟองน้ำ
ใช้ถูขี้ไคลดี ไม่เจ็บ ไม่ต้องแช่น้ำนาน

ราคา 45.-

ไม้ถูหลังใยบวบ



















ไม่หลุดง่าย  จับถนัด
เย็บขอบอย่างดี
โดนน้ำแล้วจะฟูขึ้น นุ่มขึ้น
ด้ามไม้ทาแลคเกอร์
ยาว 50 CM

ราคา 100.-

บวบมือสอด

ขนาด 5x7 นิ้ว




















ใยบวบธรรมชาติ แบบมือสอดด้านหลัง
เวลาโดนน้ำ จะฟูขึ้นเล็กน้อย  ถูได้ดี
ใช้เสร็จให้สะบัดน้ำออก อย่าบีบ จะได้
ไม่ยุ่ยไว


ราคา 40.-

หินขัดตัว ขัดเท้า











หินทรายธรรมชาติ ไม่ละลายน้ำ
ไม่เหมือนตามตลาดนัด ขัดไม่เจ็บ ไม่แสบผิว

ก้อนละ 50.-

วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556

น้ำมันมะรุม



















น้ำมันมะรุม สกัดเย็น 100%

 ประโยชน์ของน้ำมันมะรุม

นอก จากประโยชน์ต่างๆ ที่ได้กล่าวมาแล้ว เมล็ดมะรุมยังให้น้ำมันที่มีคุณสมบัติเป็นเลิศอีกด้วย เมื่อหลายพันปีมาแล้ว ชนชาติอียิปต์โบราณนำน้ำมันชนิดหนึ่งมาปรุงอาหาร บำรุงและรักษาผิวพรรณ และใช้เป็นน้ำมันหล่อลื่นที่มีคุณสมบัติพิเศษ มาว่าจะเป็นเวลานานเท่าใด น้ำมันชนิดนี้จะไม่มีการเปลี่ยนสภาพของสีและกลิ่นแต่ อย่างใด แต่ยังคงสภาพเดิมคนโบราณเรียกน้ำมันมะรุมนี้ว่า Ben Oil และนำไปใช้เป็นน้ำมันหล่อลื่นนาฬิกาชนิดดีที่สุดในโลก รวมทั้งใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางราคาแพง

จาก การค้นคว้าของนักวิจัยและประสบการณ์ของบุคคลรอบข้างรวมทั้งตัวผู้เขียนเอง ได้พบว่า น้ำมะรุมคุณสมบัติที่พิเศษและมหัศจรรย์ ท่านอาจารย์สุทธิวัสส์ ได้กรุณาอธิบายในวาระที่ท่านมาบรรยายที่วัดป่าธรรมชาติว่า น้ำมันมะรุมมีคุณสมบัติในการรักษาโรคน้ำกัดเท้า และโรคผิวหนังอันเกิดจากเชื้อราต่าง ๆ รวมทั้งป้องกันพยาธิไชเท้า ถ้านำมาทาเท้าก่อนย่ำน้ำ

ท่าน อาจารย์สุทธิวัสส์กรุณาแจ้งว่า คุณแม่ท่านซึ่งมีอายุ 89 ปี ป่วยหนัก มีอาการเป็นแผลเรื้อรังที่หลัง แพทย์ลงความเห็นว่าอาจจะไม่รอด ถ้าไม่สามารถรักษาให้หายได้ แต่ท่านก็ไม่ยอมแพ้ และได้ตัดสินใจใช้น้ำมะรุมชโลมแผลในที่สุดก็หายได้ใน เวลาประมาณ 10 วัน

สรุปสรรพคุณต่าง ๆ ของน้ำมันมะรุม

1. ใช้ปรุงอาหารชนิดเดียวกับน้ำมันมะกอก แต่ดีกว่าเพราะไม่มีกลิ่นหืนภายหลัง

2. ช่วยบำรุงรักษาผิวที่แห้งให้ชุ่มชื้น อ่อนนุ่ม และช่วยชะลอความเหี่ยวย่นของผิว

3. ช่วยรักษาโรคเชื้อราตามผิวหนัง เช่น โรคน้ำกัดเท้า เชื้อราตามซอกเล็บ และผิวแห้งเพราะเชื้อรา

4. ช่วยรักษาแผลถูกมีดบาด หรือแผลสดเล็ก ๆ น้อย ๆ

5. ลดอาการผื่นคันตามผิวหนัง และอาการแพ้ผ้าอ้อมของเด็กอ่อน

6. ลดอาการปอดบวมของโรคไขข้ออักเสบ โรคเก๊าท์

7. ช่วยรักษาแผลในปากหรือแผลของโรคปากนกกระจอก

8. ใช้นวดกระชับกล้ามเนื้อ และบรรเทาอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี

9. ช่วยบรรเทาอาการสิวบนใบหน้า

10. ช่วยลบรอยจุดด่างดำของผิวอันเป็นผลจากการโดนแดด หรือการเสื่อมตามวัย

11. ใช้นวดศีรษะ รักษาโรคเชื้อราบนหนังศีรษะ บรรเทาอาการผมร่วงง่าย และอาการคันศีรษะ

12. ช่วยถอนพิษแมลงสัตว์กัดต่อย ผู้เขียนประสบโดยตรงกับตนเองคนในบ้าน 2 คนถูกผึ้งต่อย หลังจาก       ทาน้ำมันมะรุม อาการปวดหายไปทันที ส่วนอาการบวมลดลงอย่างรวดเร็ว

13. บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามบั้นเอวและขา เนื่องจากการยืนนาน ๆ อาการปวดเมื่อยตามไหล่ และ          ปวดศีรษะ

14. ใช้เป็นน้ำมันหล่อลื่นต่าง ๆ ประจำบ้านทำให้สิ่งของไม่เป็นสนิม

ที่มาเกษตรพอเพียง



ถุงสบู่

ขนาด 4x5 นิ้ว




ถุงสบู่

กว้าง 3.5 นิ้ว X 5 นิ้ว
ด้านในใส่สบู่ได้
มีเชือกแขวน
ถูได้ทั้ง 2 ด้าน
เวลาโดนน้ำ จะฟูขึ้นอีกเล็กน้อย

ราคา 40.-

ผ้าถูหลังใยบวบ






ผ้าถูหลังใยบวบ
ความยาว 60 cm
มีที่แขวนทั้งสองด้าน
ใช้ถูหลังได้ดี เมื่อโดนน้ำ
ใยบวบจะฟู นิ่ม ไม่กระด้าง
ใช้เสร็จ สะบัดน้ำ แล้วผึ่งให้ที่ลมผ่าน

ราคา 90.-

    Blogger news

    Blogroll

    About

    โทร 086-5392111 089-6721597 siri_anant@yahoo.com Line id : isarajung